วันจันทร์ที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

บทบาทของทันตแพทย์เฉพาะทางในโรงพยาบาล

                บทบาททางทันตกรรมใน Total health care นั้นมีมากขึ้นทำให้มีการร่วมมือระหว่างวิชาชีพด้านงานชุมชนและในโรงพยาบาลที่มีทันตแพทย์และผู้ป่วยเฉพาะทางมีมากขึ้น
           

                การแพทย์มีพัฒนาจาก General practice ไปสู่การแพทย์เฉพาะทางมากขึ้นและโรงพยาบาลก็เปลี่ยนจากการให้บริการด้าน acute primary care เป็นหลักไปสู่การดูแล total health care ทุกรูปแบบ ได้แก่ ศัลยกรรม อายุรกรรม สูตินรีเวช การพยาบาล พยาธิวิทยา กุมารเวชกรรมและล่าสุดได้แก่ dental medicine ซึ่งรวมกับทันตแพทย์เฉพาะทางเพื่อรักษาและเป็นที่รับ refer ผู้ป่วยที่มีพยาธิสภาพของช่องปากและฟันมาเพื่อขอคำปรึกษา ประเมิน วินิจฉัยและรักษาผู้ป่วยที่มักจะได้รับการส่งต่อมายังแผนก ได้แก่ 
               1.ผู้ป่วย trauma 
               2.Emergency dental and oral pathologic problems 3.Medically compromised patient

Oral surgeon 
                ทำหน้าที่ประเมินการรักษาทางทันตกรรมใน medically compromised patient และช่วยประสานการ consult ระหว่างแผนกเขาเป็นผู้ที่ได้ประเมินรอยโรคที่น่าสงสัยในช่องปากในระยะเริ่มแรก ทำให้คนไข้ได้รับการรักษาเร็วและรักษาชีวิตเอาไว้ได้นอกจากนี้ยังทำ เพื่อรักษาด้านทันตกรรมในผู้ป่วย oral surgeon ยังช่วย head and neck surgeon ในการผ่าตัดและเป็น reconstructive surgeon ที่เตรียมช่องปากเพื่อใส่ prosthesis หรือเป็นผู้บูรณะ mandible ที่ถูกตัดโดยใช้ bone graft Oral surgeon จะร่วมมือกับ orthodontist ในการแก้ไข occlusal and jaw deformities ดังนั้น โรงพยาบาลจึงจำเป็นต้องมี oral surgeon อยู่ใน health team ด้วย 

Periodontist 
                ช่วยประเมินหาจุดกำเนิด infection จาก periodontium เป็นหนึ่งในผู้ชี้ขาดว่าจะเก็บฟันในผู้ป่วยฉายรังสีได้หรือไม่ และให้คำปรึกษาแก่ oral surgeon เรื่อง new occlusion จากการทำ orthognathic surgery อีกด้วย 

Pedodontist
                 เป็นที่ปรึกษากรณีปัญหาของผู้ป่วยพิเศษ เช่น cleft lip, cleft palate,craniofacial anomalies, medically compromised patient with congenital or acquired debilitating illnesss of childhood โดยร่วมกับกุมารแพทย์ในการประเมินการเจริญเติบโต และพัฒนาการของเด็กในเรื่อง stomatognathic system

Prosthodontist 
                 มักเป็นที่ต้องการในโรงพยาบาลที่มีการรักษาด้าน oncology เพราะมีความสำคัญในการวางแผนการรักษา, การทำ special reconstructive and replacement therapy บางบริเวณ maxillofacial prosthodontist จะร่วมกับ oral medicine specialist ในการ follow up ผู้ป่วยมะเร็ง และประเมินผู้ป่วย cleft lip and palate ที่จะทำ surgery หรือ obtulators prosthodontist จะได้รับการ consult ในเรื่อง orthognathic surgery ไปจนถึงเรื่อง occlusion รวมถึงการทำ special fixation devices ด้วย 

Oral medicine 
                  เป็นบุคคลที่พบกับผู้ป่วยเป็นคนแรก เป็นผู้รวบรวมประวัติและข้อมูล lab, ทบทวนประวัติทางการแพทย์,ประวัติทางทันตกรรมและ บันทึกของทางโรงพยาบาล , evaluate oral manifestration of systemic disease จากนั้นจะไป consult ทันตแพทย์เฉพาะทางสาขาอื่นเมื่อจำเป็นเพื่อให้ได้ definitive care จึงเป็นทั้งผู้ประสานงานและเป็นผู้ให้การดูแลฉุกเฉินสำหรับ stomatitis, gingivitis, relief pain ในผู้ป่วยนอก 

Oral pathologist 
                  เป็นผู้ประเมิน oral mucosa, jaw bone, odontogenic and malignant lesions of head and neck ดังนั้น oral pathologist จึงเป็นบุคคลสำคัญใน tumor boards ของโรงพยาบาล

Orthodontist 
                  เป็นที่ปรึกษากรณี case เด็กที่มี malocclusion หรือมีความผิดปกติในการเจริญเติบโตและพัฒนาการที่จะนำไปสู่การมี malocclusion เขายังทำงานกับกลุ่มคลินิกพิเศษอื่น เช่น cleft lip, cleft palate และพวก craniofacial anomalies ซึ่งต้องมีการ evaluate การเจริญพัฒนาการและ deformities ที่เกิดขึ้น 

Endodontist 
                  ให้การปรึกษาเกี่ยวกับการเก็บฟัน endodontically questionable tooth ว่าสามารถเก็บได้หรือไม่ ซึ่งฟันซี่นั้นอาจเป็นฟันหลักสำหรับฟันปลอมติดแน่นหรือ RPD หรือในกรณีที่เป็นผู้ป่วยมะเร็งที่ต้องรับการฉายแสง 

ย่อความจาก 
                   Henry MG and Louis HG. The role of the dental specialist in the hospital. Symposium on hospital dental practice. Dental Clinic of North America 1975;10;665-674 มักเป็นที่ต้องการในโรงพยาบาลที่มีการรักษาด้าน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น