วันอาทิตย์ที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2556

สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับการเป็นทันตแพทย์...



ผมเป็นคนชอบเล่นเวปบอร์ดหรือกระดานสนทนามาก โดยเฉพาะเวปบอร์ดที่มีเนื้อหาสาระที่ผมสนใจและที่ผมมีความรู้จะชื่นชอบเป็นพิเศษ เพราะนอกจากเราจะได้ความรู้เพิ่มขึ้นในสิ่งที่เราสนใจด้วยแล้ว เรายังสามารถแนะนำสิ่งที่เรารู้แก่คนอื่นที่ต้องการอีกด้วย ถือว่าเป็นประโยชน์มากสำหรับส่วนตัวและส่วนรวม แตกต่างจากยุคสมัยก่อนที่ต้องวิ่งเข้าห้องสมุดหรือสอบถามจากผู้รู้โดยตรงเท่านั้น

มีอยู่วันหนึ่ง ผมเกิดอยากทราบกระแสของเด็กแอดมิชั่น ณ เวลานั้นว่าเขาชื่นชอบและสนใจจะเรียนคณะใดบ้าง คณะใดฮิตติดตลาดเป็นอันดับต้นๆบ้าง และมีอะไรแปลกใหม่ทันสมัยไปกว่าสมัยก่อนที่ผมยังเป็นนักเรียนหรือไม่

สมัยก่อนจำได้ว่าสมัยผมเพื่อนๆจะอยากเรียนวิศวะกรรมศาสตร์มากเป็นอันดับ 1 ส่วนทันตแพทย์นั้นไม่ค่อยนิยมเท่าไหร่

สิ่งที่ผมพบจากเวปไซด์และเวปบอร์ดต่างๆ ผมรู้สึกว่าคณะแพทยศาสตร์และทันตแพทย์เป็นที่สนใจของเด็ก ม.ปลายกันมากมาย ดูเหมือนจะมากกว่าสมัยที่ผมเป็นเด็กเสียอีก ในบางเวปบอร์ดมีคนตั้งคำถามถึงคณะทันตแพทย์หลายสิบกระทู้ในเวลาเพียงไม่กี่วัน

ผมก็ไม่ทราบว่าคณะทันตแพทย์ติดอันดับที่เท่าไหร่ในใจของน้องเหล่านั้น แต่เชื่อว่ามีมากและเป็นที่สนใจอย่างสูง พอลองสอบถามกลับไปที่คณะทันตแพทย์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่ที่ซึ่งผมเรียนจบมา เขาก็เล่าให้ฟังว่าเด็ก ม.ปลายสนใจอยากจะเรียนคณะทันตแพทย์เยอะมาก มีคนประสงค์จะเข้าค่ายเรียนรู้เป็นหมอฟันหลายร้อยคนและเพิ่มมากขึ้นทุกๆปี

กลับมาที่เวปบอร์ด ผมลองไล่อ่านดูในแต่ละกระทู้ที่เกี่ยวกับคณะทันตแพทย์และการสอบเข้ามหาวิทยาลัย มีกระทู้ตั้งเป็นคำถามมากมายเป็นร้อยๆ ยกตัวอย่างดังนี้

ใครเลือกทันตจุฬา มั้งคร้าบ ใครเข้ามาขอให้ติด

รวมพลคนเลือกทันตะ

ถึงพี่พี่ทันตะนเรศวร

อ่านหนังสือยังไงให้ติดทันต ?

ทันตปีนี้มีสอบตรงที่ไหนบ้าง

ไม่ชอบงานศิลป์ วาดรูปไม่เป็น เรียนหมอฟันได้ไหมอะ

ทำไม มช. รับนักศึกษาน้อยจัง

เรียนหมอฟันหนักไหม กลัวเรียนไม่ไหวอะ


ในบรรดาหลายร้อยกระทู้ที่ผมไปขุดคุ้ยดู ผมเกิดสนใจกับกระทู้หนึ่งมากที่สุด โดยน้องเขาโพสว่า

หัวข้อ  :  แบบนี้หนูจะเป็นหมอฟันได้ไหมคะ ?

เนื้อหา   : คือหนูอยากเรียนทันต มช. มั๊กๆเลยคะ แต่หนูไม่รู้ว่าจะสอบติดไหมเพราะเพื่อนๆอยากเรียนกันเยอะมั๊กๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ หนูเองก้อไม่ค่อยขยันด้วย เขาว่าเรียนหนักมั๊กๆ และที่สำคัญคือหนูเป็นคนตัวเตี้ย และเปนคนผิวดำ คล้ำเพื่อนๆชอบแซวว่าเป็นเงาะป่า แถมหนูมีสิวเยอะมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เปนหมอฟันต้องมีบุคคลิกดีใช่ไหมคะ อย่างนี้จะเปนหมอได้หรือคะ เพราะหมอต้องดูดี หน้าตาดี คนจึงจะเชื่อถือมากๆใช่ไหมคะ 


อ่านจบ รู้สึกทั้งตลกและสลดใจ

ตลกกับการใช้ภาษาของวัยรุ่นสมัยนี้  มั๊กๆ  มากๆ , ก้อ  ก็ , ป่าว  เปล่า อ่านดูก็ออกแนวน่ารัก แต่หวังว่าจะไม่ติดนิสัยการใช้ภาษาแบบนี้ไปจนถึงตอนเขียนรายงานส่งอาจารย์ในมหาวิทยาลัย เพราะมานม่ายดี เอ้ย  มันไม่ดี

ในส่วนที่ผมแอบรู้สึกสลดใจคือ น้องเขาเห็นความสำคัญของการเป็นหมอฟันแปลกไป อาจจะด้วยประสบการณ์ของน้องยังน้อย หรือรับรู้มาตามกระแสที่สังคมกำลังนิยมจึงคิดว่า บุคคลิก , หน้าตา , ความสวย , ความหล่อ เป็นสิ่งที่จำเป็นต้องมีและเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการเป็นทันตแพทย์

อยากจะบอกว่าถ้าหน้าตาหรือความหล่อเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการเป็นทันตแพทย์ ผมคงตกสัมภาษณ์ตั้งนานแล้ว และอาจารย์ในคณะทันตแพทย์ก็คงไม่ได้มาเป็นหมอฟันหรือมาเป็นอาจารย์ของผมอีกที เพราะหลายคนก็ได้ไม่ดูหล่อเหลาเลย (ฮา)  ตรงกันข้าม ถ้าผมหน้าตาดีจริง ผมคงไปเป็นดาราดีกว่า  ไม่ต้องอ่านหนังสือสอบ ไม่ต้องทำคนไข้ รวยด้วย แถมสบายกว่ากันเยอะเลย ไม่ต้องมานั่งทำฟันหลังขดหลังแข็งอย่างทุกวันนี้


เอ.....แล้วอะไรคือสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับการเป็นทันตแพทย์ ?

คำถามนี้ผมไม่เคยจะสนใจเลยตลอดเวลาที่ร่ำเรียนในคณะทันตแพทย์ จนพอมาทำงานเป็นหมอฟันได้มีประสบการณ์ดูแลรักษาคนไข้ผมจึงเข้าใจ

สำหรับน้องๆที่คิดอยากจะเป็นทันตแพทย์ เมื่ออ่านแล้วบางคนคงเริ่มปลง อย่างนี้รอให้หนูเรียนทันตแพทย์จนจบแล้วค่อยตรัสรู้เองใช่ไหมเนี่ย เอาเป็นลองดูโจทย์ต่อไปนี้แล้วตัดสินใจดูเองนะครับ


ถ้าคุณสามารถเลือกได้ที่จะทำฟันกับทันตแพทย์จบใหม่ดังต่อไปนี้เพียง 1 ท่าน คุณจะไม่เลือกทำฟันกับข้อใด

ก.      หมอ เรียนจบเกียตรินิยม หล่อ    แต่  ไม่ค่อยสุภาพ พูดจาห่ามๆดิบๆ
ข.      หมอ สวย น่ารัก พูดจาไพเราะ    แต่   เรียนจบด้วยเกรดเพียง 2.01 (เกือบไม่จบ)
ค.      หมอ สุภาพ เรียนจบเกรด 3.00 หน้าตาธรรมดา    แต่   เรียนจบมหาลัยต่งจังหวัดไม่โด่งดัง
ง.       หมอ เรียนจบเกรด 3.5  สุภาพ มือเบา    แต่   หน้าตาขี้เหร่ สิวเยอะ ตาเหล่ พูดจาติดอ่าง  
จ.      หมอ เรียนจบเกียตรินิยม หล่อมาก สุภาพมาก    แต่   ชอบขี้โกงและเคยโกหกคนไข้บ่อยๆ

ทั้ง 5 คนจะมีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกัน ซึ่งเป็นธรรมดาของมนุษย์ทุกคนที่ย่อมมีทั้งข้อดีและเสียปะปนกัน แต่ในบรรดาข้อเสียทั้งหมดจะมีข้อเสียที่รับได้หรือเป็นข้อเสียที่ไม่มีผลเสียต่อคนอื่น
แต่ข้อเสียที่ว่า ขี้โกงและโกหก หรือไม่มีความสุจริต เป็นข้อเสียที่อันตรายมากกว่าสิวเยอะหรือตัวเตี้ย

เพราะคนที่ชอบโกหกเราจะไว้ใจเขาได้ขนาดยอมให้ทำฟันกับเราหรือไม่?
คนโกหก วันหนึ่งถ้าเขาทำฟันแล้วเกิดความผิดพลาดขึ้น เขาพร้อมจะรับผิดชอบด้วยดีหรือไม่?
จะรู้ได้อย่างไรว่าฟันคุดที่เขาผ่า หรือสิ่งที่เขาอุดฟันให้เรา เป็นงานที่ดีมีคุณภาพในเมื่อเขาเป็นคนขี้โกง ?

คำตอบที่ทุกคนน่าจะเลือกเป็นคำตอบเดียวกันคือ  จ. ไม่มีใครอยากทำฟันกับหมอที่โกหก ขี้โกง ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตใช่ไหมครับ ต่อให้จบมาจากเมืองนอก เกรดสูงแค่ไหน หรือหล่อเหลาเพียงใดก็คงไม่สามารถทำให้หมอคนนั้นเป็นคนที่มี จริยธรรม สูงขึ้นได้


ทิ้งท้ายบทความนี้กับบทความของเจ้าสัว ซีพี ที่เล่าในหนังสือของเขาถึงคุณสมบัติที่สำคัญของพนักงงานในบริษัทว่าคุณสมบัติที่สำคัญที่สุด 3 อันดับแรก คือ
1.ความซื่อสัตย์
2.ความฉลาด
3.ความขยัน

ทำไมความซื่อสัตย์ต้องอยู่อันดับ 1. ?

เพราะถ้าไร้ซึ่งความซื่อสัตย์แล้ว ข้อ 2. และ ข้อ 3.  จากข้อดีจะกลายเป็นข้อเสียทันที คือมีลูกน้องที่ฉลาดแกมโกงแถมขยันโกงเสียด้วย

ฉะนั้นไม่ว่าจะเป็นพนักงานบริษัทหรือทันตแพทย์ สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับอาชีพทั้งสองคงเหมือนกาน

เอ้ย...เหมือนกัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น